fbpx

วัยรุ่นควรเริ่มทานคอลลาเจนอายุเท่าไหร่ ?

( คอลลาเจนเริ่มกินอายุเท่าไหร่ ถึงจะดี  )เชื่อว่ามาถึงตอนนี้สาว ๆ หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้ว “คอลลาเจน” มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องของผิวพรรณ ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส, เรียบเนียน, ลดรอยหมองคล้ำ และยังมีผลดีต่อเส้นผมเพราะคอลลาเจนจะกระตุ้นให้ร่างกายสามารถผลิตโปรตีนไฟเบอร์ได้มากขึ้น ส่งผลให้เส้นผมของเราดกดำ นุ่มนวล เงางาม มีน้ำหนัก และหนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

แต่ถึงอย่างไรคอลลาเจนก็ไม่สามารถที่จะอยู่กับเราได้ไปตลอดชีวิต เพราะเมื่ออายุเริ่มมากขึ้นร่างกายก็จะผลิตคอลลาเจนได้ลดน้อยลง ซึ่งสาว ๆ จะเห็นได้จากเมื่อช่วงอายุ 20 ปี ผิวหนังของเราจะยังคงเต่งตึง นั่นเป็นเพราะในผิวหนังยังประกอบคอลลาเจนอยู่มากถึงประมาณ 75% ด้วยกัน แต่พอตัวเลขอายุเริ่มเพิ่มมากขึ้นร่างกายก็จะผลิตคอลลาเจนลดลงเฉลี่ย 1.5% ด้วยกัน พอเข้าสู่วัยกลางคนอายุเริ่มแตะเข้าวัย 40 ปี กระบวนการสร้างคอลลาเจนของร่างกายก็จะลดลงถึง 30% ซึ่งในช่วงนี้ผิวของเราก็จะอ่อนแอลง เริ่มมีริ้วรอยเหี่ยวย่นเพิ่มมากขึ้น สาเหตุเกิดจากการที่ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น และนอกจากผลกระทบต่อผิวพรรณแล้ว ก็จะเจอปัญหาที่บริเวณข้อต่อกระดูกต่าง ๆ เวลาเดินก็ทำให้เสียดสีจนเกิดเสียงกระดูกลั่นขึ้น ฉะนั้นเมื่อทราบแล้วว่าร่างกายขาดหรือปล่อยให้คอลลาเจนลดน้อยลงไม่ได้ ประกอบกับเมื่ออายุเพิ่มขึ้นคอลลาเจนก็จะสวนทางคือผลิตได้ลดน้อย ทางแก้ไขที่ดีที่สุดก็คือต้องเพิ่มคอลลาเจนให้กับร่างกายด้วยการเริ่มต้นทานคอลลาเจนตั้งแต่ยังอยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาว กล่าวคือเมื่ออายุเข้าสู่วัย 25 ปี ก็ควรเริ่มทานคอลลาเจนเสริมเข้าไปเพื่อให้ร่างกายไม่ต้องเข้าสู่ภาวะขาดคอลลาเจนนั่นเอง

นอกจากวิธีช่วยเสริมคอลลาเจนให้กับผิวแล้ว การลดการสูญเสียคอลลาเจนก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้ร่างกายยังคงสภาพคอลลาเจนไว้ให้อยู่กับร่างกายได้นาน ๆ โดยจะมีวิธีไหนบ้างมาลองดูกัน

  1. เริ่มจากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารของตัวเองก่อน ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีผลให้ระดับอนุมูลอิสระในร่างกายเพิ่มขึ้น ซึ่งได้แก่อาหารจำพวก หวานมาก ๆ อาหารประเภทปิ้งย่าง และอาหารแปรรูป
  2. เลือกรับประทานอาหารที่มีคุณสมบัติของคอลลาเจนสูง ๆ เช่น ปลา, ผักใบเขียว, เอ็นสัตว์ เป็นต้น ถ้าจะให้ดีควรทานวิตามินซีควบคู่ไปด้วยเพื่อเพิ่มการผลิตคอลลาเจน และช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสอีกด้วย
  3. พยายามอยู่ให้ห่างจากมลภาวะเป็นพิษต่าง ๆ เช่น ควัน, ฝุ่น, สารเคมี, ยาฆ่าแมลง, ความเครียด และที่สำคัญไม่ควรสูบบุหรี่หรือสูดดมกลิ่นควันจากบุคคลอื่น เพราะควันบุหรี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวการที่ส่งผลให้คอลลาเจนในร่างกายถูกทำลายลง
  4. ปกป้องผิวจากแสงแดด ด้วยการใช้ครีมกันแดดหรือเครื่องสำอางที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เพราะรังสียูวีที่อยู่ในแสงแดดจะทำให้ปริมาณคอลลาเจนในผิวหนังลดลง แถมยังเพิ่มเอนไซม์ที่ส่งผลร้ายโดยตรงกับคอลลาเจนอีกต่างหาก