fbpx

จบปัญหากลิ่นตัวแรง ด้วยทริคง่าย ๆ และไอเทมเด็ด Pasavaa Alum Deodorant Power + Ara Deodorant Cleansing Wipes

ปัญหากลิ่นตัวแรง เรียกได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่ควรมองข้ามหรือปล่อยปละละเลยค่ะ เพราะการมีกลิ่นตัวแรงนั้นส่งผลต่อบุคลิกภาพของเราเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราอีกด้วย ดังนั้น การดูแลตัวเองไม่ให้มีกลิ่นกายแรงหรือมีกลิ่นเต่า จะทำให้เรามีบุคลิกภาพที่ดี ไม่ว่าจะไปที่ไหน ทำกิจกรรมอะไรก็มั่นใจค่ะ วันนี้เราจึงรวบรวมทริคการดูแลตัวเองให้มีกลิ่นกายที่หอมสะอาด ปราศจากกลิ่นเต่ากลิ่นตัวกันค่ะ 

กลิ่นตัวแรง เกิดจากอะไรกันนะ?

การมีกลิ่นตัวที่รุนแรง มีสาเหตุจากหลายปัจจัยค่ะ

1. การไม่ดูแลสุขอนามัย เช่น การไม่อาบน้ำชำระล้างร่างกาย การใช้ผ้าที่ไม่สะอาดในการเช็ดตัว
2. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น การมีความเครียด การเปลี่ยนแปลงของร่างกายในช่วงวัยรุ่น และการตั้งครรภ์ เป็นต้น อาจทำให้เกิดกลิ่นตัวแรง
3. การทานอาหารที่ไม่เหมาะสม เช่น อาหารรสจัด เช่น แกงกะหรี่ แกงเผ็ด ที่มีส่วนผสมของขมิ้น กระเทียม และเครื่องเทศที่มีกลิ่นแรง เป็นสาเหตุหนึ่งของการมีกลิ่นตัวแรง เพราะเมื่อผ่านการย่อยจะเกิดแก๊สซัลเฟอร์ปนอยู่กับออกซิเจนในเลือดที่ไปอยู่ตามรูขุมขน หากทานอาหารรสจัดทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมาโดยเฉพาะใต้วงแขน
4. การดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
5. โรคเบาหวาน ในกรณีโรคเบาหวานที่ไม่ได้รับการรักษา ร่างกายจะเริ่มขับไขมันเพื่อใช้เป็นพลังงานส่งผลให้ระดับคีโตน (Ketone) ในร่างกายสูงขึ้น หลังจากนั้นสิ่งที่สะสมไว้ก็จะเปลี่ยนเป็นกลิ่นตัวค่ะ

จบปัญหากลิ่นตัวแรง ด้วยทริคง่าย ๆ

1. การทำความสะอาดร่างกายอย่างถูกวิธี

โดยการอาบน้ำอย่างถูกต้องและทำความสะอาดครบทุกซอกมุมของร่างกาย เพื่อให้ร่างกายสะอาดอยู่เสมอ และลดการสะสมของเหงื่อและแบคทีเรีย นอกจากนี้ ควรใช้ผ้าที่สะอาดในการเช็ดร่างกายด้วยค่ะ

2. ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ช่วยลดแบคทีเรีย

การใช้ครีมอาบน้ำที่ช่วยลดหรือกำจัดแบคทีเรีย เป็นการช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกและแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของการมีกลิ่นตัวแรงออกจากร่างกายได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

3. การใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์

การใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ ไม่ว่าจะเป็น โรลออนระงับกลิ่น แป้งฝุ่น เป็นวิธีป้องกันการเกิดกลิ่นกายที่ทำได้ง่าย และสามารถลดกลิ่นกายได้เป็นอย่างดีค่ะ ซึ่งวิธีนี้สามารถช่วยป้องกันเรื่องกลิ่นตัวได้ชั่วคราว โดยการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและปรับสภาพเหงื่อไม่ให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ง่าย

4. ไม่ใส่เสื้อผ้าที่สกปรก หนา และอับชื้น

การใส่เสื้อผ้าที่สกปรก หนา และอับชื้นเป็นการทำให้เกิดการหมักหมมของแบคทีเรีย ซึ่งทำให้กลิ่นตัวรุนแรงมากขึ้นค่ะ ดังนั้นจึงควรสวมใส่เสื้อผ้าที่บางเพื่อลดการอับชื้น ช่วยลดการผลิตเหงื่อและชะลอการเติบโตของแบคทีเรีย

5. หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีกลิ่นแรง

เช่น หัวหอม กระเทียม เพราะยิ่งทำให้เรามีกลิ่นตัวแรงขึ้น และควรทานผักใบเขียวหรือผลไม้เป็นประจำแทน

6. ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดจำนวนเหงื่อและเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย ซึ่งจะช่วยลดกลิ่นตัวที่เกิดจากเหงื่อและแอมโมเนียที่สะสมอยู่บนผิวหนังนั่นเองค่ะ

และนี่คือทริคการดูแลร่างกายไม่ให้มีกลิ่นตัวแรงที่เรานำมาฝากกันค่ะ ซึ่งล้วนเป็นวิธีที่ทำได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่รักษาความสะอาดของร่างกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็ตัดปัจจัยหลักที่ทำให้มีกลิ่นตัวแรงไปได้หลายข้อแล้วค่ะ และที่สำคัญคือ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ซึ่งเป็นตัวช่วยที่สำคัญมาก ๆ อย่าง สารส้มชนิดผง  Pasavaa Alum Deodorant Power และทิชชู่เปียกทำความสะอาดวงแขน Ara Deodorant Cleansing Wipes ค่ะ

Pasavaa Alum Deodorant Power

ราคา 69 บาท

ตัวนี้เป็นสารส้มชนิดผง ที่ช่วยระงับกลิ่นกายได้ดีมาก ๆ สามารถระงับกลิ่นกายได้ยาวนานตลอดทั้งวันค่ะ แถมมีความอ่อนโยนต่อผิว ไม่มีสารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง ไม่มีแอลกอฮอล์ และไม่ทำให้ผิวใต้วงแขนหมองคล้ำค่ะ

Ara Deodorant Cleansing Wipes

ราคา 129 บาท (จากปกติ 149 บาท)

ทิชชู่เปียกสำหรับทำความสะอาดผิวใต้วงแขนเพื่อระงับกลิ่นกายค่ะ ตัวนี้มีส่วนสผมของสารสกัดจากลูพลับญี่ปุ่น ซึ่งมีสรรพคุณในการช่วยระงับกลิ่นได้ดีมาก ๆ สามารถคุมกลิ่นและเหงื่อได้ตลอดวันโดยไม่ทำให้อับชื้น มีกลิ่นหอม ไม่ฉุน ช่วยบำรุงผิวใต้วงแขนให้กระจ่างใส และยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้ดีค่ะ นอกจากนี้ยังอ่อนโยนต่อผิวมาก ๆ ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ค่ะ