ไลฟ์สไตล์
เจาะลึกประโยชน์โปรแกรมลดน้ำหนัก IF (Intermittent Fasting) ที่ไม่ได้มีดีแค่ ‘น้ำหนักลด’
พ.ย.
หนึ่งในวิธีการลดน้ำหนักที่ฮอตฮิตมากที่สุดในยุคนี้คงหนีไม่พ้นกับวิธีการควบคุมอาหารด้วยโปรแกรม IF ซึ่งเราเชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้จักหรือคุ้นชินกับวิธีการนี้ ถึงเวลามาลองทำความรู้จักวิธีการลดน้ำหนักรูปแบบนี้ รับรองว่าไม่ได้มีดีแค่น้ำหนักลดอย่างแน่นอน
IF คืออะไร?
IF (Intermittent Fasting) เป็นวิธีการลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารในช่วงเวลาแต่ละวัน โดยในแต่ละวันเราจะมีการแบ่งเป็นช่วงเวลาที่เรียกว่า Fasting คือการอด และก็ช่วง Feeding คือช่วงกิน หรือเข้าใจได้ง่ายๆ ว่า ทำ IF เหมือนเป็นการลิมิตเวลาการกินของตัวเอง ส่วนสูตรที่ได้รับความนิยมมากๆ ก็คือการ 16:8 หรือ อดอาหาร 16 ชั่วโมง กิน 8 ชั่วโมง เช่น เริ่มกินอาหารตอนเที่ยง 12.00 น. จะกินได้จนถึง 2 ทุ่ม เท่านั้น เป็นต้น ซึ่งเป็นสูตรที่สามารถกำหนดเวลาเองได้ ทำได้ง่าย ไม่โหยอาหารจนเกินไป และทำได้อย่างต่อเนื่อง หากมีวินัยกับตัวเอง
นอกจากนั้นยังมีสูตรอื่นๆ อีกมากมาย ได้แก่
- สูตร Fast 5 : อดอาหาร 19 ชั่วโมง กิน 5 ชั่วโมง
- สูตร Eat Stop Eat : อดอาหาร 24 ชั่วโมง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนวันที่เหลือก็สามารถกินได้ตามปกติ
- สูตร 5:2 : กินปกติ 5 วัน ทำ IF วัน โดยเลือกทำติดกัน 2 วัน หรือห่างกันก็ได้
- สูตร Alternate Day Fasting : อดอาหารแบบวันเว้นวัน (อาจคล้ายกับสูตร 5:2)
ประโยชน์ของวิธีการลดน้ำหนัก IF
งานวิจัยพบว่า IF มีส่วนช่วยลดอัตราการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อและมวลกระดูก ในขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อให้มากขึ้นด้วย ซึ่งจะต่างกันกับการลดน้ำหนักแบบนับแคลอรี่ธรรมดา และมีผลวิจัยเผยว่า IF ช่วยทำให้ชีวิตยืนยาวแบบมีความสุขขึ้นสูงสุงถึง 83% และยังมีประโยชน์อื่นๆ ด้านร่างกายและจิดใจอีกมากมาย ได้แก่
- IF ช่วยเปลี่ยนการทำงานของเซลล์ ยีนส์ และฮอร์โมนให้ดีขึ้น
- IF ช่วยลดฮอร์โมนอินซูลินในเลือด
- IF ช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน โรคหัวใจ
- IF ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และลดอาการอักเสบ
- IF ช่วยกระตุ้นการทำงานของเมจาบอลิซึม ช่วยลดเสี่ยงโรคมะเร็ง
- IF ช่วยให้สมองทำงานดีขึ้น
ข้อควรระวังของการทำ IF
หากทำ IF ผิดวิธีหรือเข้าใจในวิธีที่ผิดๆ ก็จะเกิดปัญหาด้านสุขภาพตามมาได้ ทั้งนี้ข้อควรระวังสำหรับคนที่คิดจะทำ IF มีดังนี้
- อดอาหารมากเกินไปจนขาดสารอาหาร
- รีบกินก่อนถึงช่วงเวลาอดอาหารจนควบคุมน้ำหนักไม่ได้
- กำหนดเวลากินและอดผิดเวลาอาจเสี่ยงต่อโรคลำไส้ได้
- นอนดึก
- ไม่ออกกำลังกาย
- กินตามใจปากเพราะนึกว่ากินอะไรก็ได้ในช่วงเวลาการกิน 16 ชั่วโมง
สุดท้ายนี้ IF เป็นวิธีลดน้ำหนักที่หลายคนทำแล้วประสบความสำเร็จ อีกทั้งยังช่วยปรับระบบภายในร่างกายได้ แต่ไม่ได้แปลว่าจะเหมาะกับทุกคนนะคะ ดังนั้นก่อนที่จะลองทำ IF ก็ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและเช็คสภาพร่างกายของตัวเองก่อนเพื่อความปลอดภัยของร่างกาย ที่สำคัญอย่าหักโหมเรื่องการลดน้ำหนักมากจนเกินไป
